Toyota C-HR มือสองคันนี้ เป็นปี 2019 เครื่องยนต์สันดาปกึ่ง Hybrid ซึ่งเป็นรุ่นตัว Hi สุดของรุ่นนี้ นอกจากจะวิ่งมาราวๆ 7 หมื่นกว่าลิโลเมตรแล้ว ราคาก็ยังหั่นเกือบครึ่งซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงราคามือหนึ่ง นั้นอยู่ที่ 1.159 ล้านบาท พร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่ Hybrid จากศูนย์ 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง สามารถใช้งานได้อีกยาวๆ ปีรถคันนี้เป็นปี 2019 ถ้าหากจะนับตามปี ก็สามารถใช้งานได้อีกราวๆ 7 ปีนับจากวันที่ลงบทความนี้ในปี 2022
เรียกว่าสีดำชุดแต่ง Sporti ดูดุดันไม่เกรงใจใครเอามากๆ ถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีลวดลายสีฟ้าเพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถระบบ Hybrid ลงตัวกับสีของโลโก้เลยสปอยเลอร์ด้านหลังดูลงตัว ด้านหน้า มีไฟตัดหมอกเพิ่มความสว่างแต่ยังเป็นหลอดฮาโลเจนอาจจะดูไม่สมราคาเท่าไรนัก แต่ไฟท้ายจะเป็นหลอด LED จุดๆ
Toyota C-HR เป็นรถที่ได้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก (TOYOTA Safety Sense) ด้วยระบบ All Speed Dynamic Radar Cruise Control สามารถควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้จนรถหยุดนิ่ง และสามารถเร่งกลับไปยังความเร็วเดิมที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถหรือวัตถุขวางหน้า
ความรู้สึกในการขับขี่สำหรับคันนี้
สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือพวงมาลัยน้ำหนักปานกลางออกไปทางเบา แต่ก็เหมาะกับสาวๆ ที่แรงน้อยๆ แต่ชอบความสปอร์ทเร้าใจ เพราะทรงของพวงมาลัยหน้าตามันดูเอาใจสายซิ่งโดยไม่ต้องแต่งเพิ่มเลยซะจริง พร้อมด้วยการตัดลายตกแต่งด้วยดำเงาหรือที่เขาเรียกกันกว่า Piano Black ก็ทำให้เป็นคนที่ไม่ดูโล้นจนเกินไป หัวเกียร์แบบนั้น ไม่ดูขวางหูขวางตาออกไปทางทันยุคทันสมัยซะด้วยซ้ำ แต่ก็ททรงแบบนี้แหละที่มองเท่าไ่หร่ก็ไม่เบื่อ พร้อมกับระบบแอร์ที่ถือว่าดีเป็นอย่างมาก นอกจากจะ Digital แล้ว ก็ยังมีระบบแยกซ้ายและขวาเหมือนกับรถ Segment ใหญ่ๆอีกด้วย
เบรคมือไฟฟ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขาย สำหรับ Toyota C-HR ซิ่งอันที่จริงรถในราคาหลักล้านก็ควรติดมาให้แล้วแหละ แต่ก็ไม่ง่ายๆ สำหรับแบรนด์ตลาดอย่าง Toyota ซึ่งนี่ก็เป็นอีกรุ่นที่ใส่ระบบไฟฟ้าจัดเต็มมาให้ จอกลางขนาด 7นิ้วแบบ Android Auto และ Apple Carplay จากศูนย์ก็ยังสภาพถือว่าไม่ขี้ริ้วขี้เหล่ และยังมีกล้องถอยยมองหลังถูกใจสาวๆ แต่ใครซอยมืดก็อาจจะเจอปัญหาความสว่างไม่พอได้เหมือนกันเพราะไฟถอย C-HR ดวงเล็กเท่ามดแดง ข้างละ 3 ตัวเท่านั้นเอง
จุดวิพากษณ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูคือ ประตูหลังซึ่งการออกแบบ ที่เน้นดีไซน์มากเกินไปทำให้กระจกหลังมีบาน เล็กแค่ 2 ฝ่ามือ ทำให้คนนั่งหลังรู้สึกอึดอัดเหมือนกับอยู่ในห้องขัง มีแสงรำไร แต่ก็ยังถือว่าให้อภัยเพราะความโค้งของกระจกฝาท้ายคือการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้พอสมควร
ตัวถังและมิติ ไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับรถพวกตระกูล PPV ซึ่ง ความยาวของตัวถังอยู่ราวๆ 4,360 มิลลิเมตร และสูง 1,795 มิลลิเมตรเท่านั้น และส่วนของความสูงก็เพียงแค่ 1,565 มิลลิเมตร เมื่อวัดจากความสูงตั้งแต่พื้นขึ้นไป
ภายในยังมีการจัดลายด้วยพลาสติกน้ำตาลเข้มที่เป็นลวดลายโมเดริ้นเสริมความลงตัวเมื่อเปิดประตูและเห็นจากภายนอก เบาะนั่งคนขับอาจจะดูมีรอบยับซักเล็กๆน้อยๆ เพราะเจ้าของเดิมเป็นคนที่ค่อนข้างเตี้ยและท้วมๆ เวลาลงจึงไม่ค่อยยกตัวให้พ้นเบาะซักเท่าไหร่ ถึงจะเป็นรถที่เคยราคาหลักล้านแต่เอาเข้าจริงก็ไม่มีเบาะไฟฟ้าเหมือนเดิม มีเพียงระบบเบาะหนุนหลังเท่านั้นที่ใส่มาให้เป็นไฟฟ้า
ยี่ห้อ : Toyota | รุ่น : C-HR |
โฉมรถยนต์ : (ปี 17-21) | รายละเอียดรุ่น : HV Mid |
ปี : 2019 | เชื้อเพลิง/ขนาดเครื่องยนต์ : เบนซิน 1800 CC |
ระบบเกียร์ : ออโต้ | จำนวนที่นั่ง : 5 ที่นั่ง |
เลขไมล์(กม.) : 7x,xxx | สี : ดำ |
ไฮไลท์รถยนต์
✅ ผ่อนได้สูงสุด 84 งวด | ✅ ผ่อนเริ่มต้นที่ 12,xxx บาท |
✅ ตัวท๊อปสุด ออกห้าง 1,159,000 บาท | ✅ ไมล์ 7 หมื่นโลแท้ๆ |
✅ เครดิตดี ฟรีดาวน์ | ✅ รับเทิร์นรถให้ราคาสูง |
✅ อาชีพอิสระ /ค้าขาย/ รับเงินสดเราจัดให้ได้ | ✅ ติดเครดิตสามารถปรึกษาการออกรถได้ ฟรี |
✅ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่านคืนเงินทุกกรณี | ✅ ฟรี!! บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อก่อนส่งมอบ |
สำหรับเครื่องยนต์ที่ประจำการในรุ่นนี้คือ
เครื่องยนต์ขนาด 1.8 (1798 cc. )ลิตรภายใต้รหัส 2ZR-FBE 4 สูบแถวเรียงอัตราช่วงชักที่ 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุดที่ 140 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเใตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที ร่วมกับมอเตอร์ ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronnous otor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah ความจุของถังน้ำมัน 43 ลิตร สามารถรองรับน้ำมันแบบ E85 และ E20