ให้เข้ากับสถานการณ์น้ำท่วมกรุง เราทีมงาน กฤษฎากู๊ดคาร์ มีเทคนิคการขับรถลุยน้ำมานำเสนอ เพราะถ้าการขับรถลุยน้ำถ้าขับไม่ถูกวิธีอาจส่งผลให้รถยนต์คุณพังได้ เทคนิคนี้ใช้ได้ทั้งรถใหม่และ รถมือสอง เรามาดูกันว่าเทคนิคมีอะไรบ้าง ?
1.ประเมินความลึกของน้ำ
ถ้าหากเราเห็นว่าข้างหน้ามีน้ำท่วม เราควรประเมินความลึกจากระดับของฟุตบาท โดยความสูงของฟุตบาทจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 10-30 เซนติเมตร ดังนั้น ถ้าน้ำท่วมจนเอ่อปริ่มฟุตบาท แสดงว่าระดับน้ำค่อนข้างสูงอันนี้จะเป็นอันตรายต่อรถเก๋งทั่วไป
2.ขับรถลุยน้ำต้องใช้ความเร็วต่ำ
หากจากการที่เราประเมินระดับน้ำถ้าหากความสุงไม่เกิน (30 เซนติเมตรอันนี้สำหรับรถเก๋งทั่วไป) ให้เราขับรถผ่านโดยที่ใช้ความเร็วที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะโดยส่วนใหญ่เราจะเข้าใจว่าการขับรถลุยน้ำต้องเร่งเครื่องให้รอบสูงเพื่อป้องกันเครื่องดับ แต่ในความเป็นจริงแล้วผิดนะคับ เพราะถ้าเราขับรถในความเร็วโดยเร่งเครื่องในรอบสูงน้ำจะกระฉอกอย่างรุนแรง และในขณะเร่งเครื่องจะทำให้เครื่องยนต์ดูดอากาศเข้าไปเผาไหม้อย่างรุนแรง แต่ถ้าดูดน้ำเข้าไปล่ะก็ รับรองได้ว่าก้านสูบหักแน่นอน เครื่องดับ น๊อค ละก็กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน ดังนั้นเราควรขับโดยใช้ความเร็วที่ต่ำ ช้าที่สุด
3.ใช้เลนที่ระดับน้ำต่ำที่สุด
บนท้องถนนที่น้ำท่วมมักมีการชะลอตัวของจราจร เพราะหลายๆคนมักจะไปใช้เลนที่น้ำตื่นที่สุด เพราะฉะนั้นเราไม่ควรใจร้อนที่จะไปเลือกขับรถที่ระดับน้ำที่สูง เพราะถ้าหากเครื่องยนต์ดับหรือนีอคมาจะเป็นปัญหา ต้องมานั่งเสียค่าซ่อมรถยนต์ อย่างนั้นต้องใจเย็นๆ
การขับรถลุยน้ำไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าประมาท เพราะถ้าเกิดเครื่องน๊อค เราต้องเสียทั้งเวลา เสียเงิน ตัวเครื่องก็ไม่สามารถใช้ได้ดีดังเดิม เราควรใจเย็นอย่าใจร้อนกันนะคับ
นำเสนอโดย ทีมงาน กฤษฎากู๊ดคาร์