Tips & News » สาระน่ารู้ » สัญญาณไฟฉุกเฉินควรใช้อย่างไรไม่ให้เป็นอันตราย

สัญญาณไฟฉุกเฉินควรใช้อย่างไรไม่ให้เป็นอันตราย

7 มกราคม 2018
1325   0

 

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ไฟฉุกเฉินนั้นสามารถใช้ได้ในทุกๆ กรณีที่อยู่บนท้องถนน จริงๆแล้วเป็นความที่คิดผิดนะครับ เพราะบางครั้งถ้าหากเราใช้ในกรณีที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้รถคันหลังที่ตามมานั้นเข้าใจผิด จนไปถึงขึ้นเกิดอุบัติเหตุได้เลยนะครับ ฉะนั้น เราควรมาทำความรู้จักไฟฉุกเฉินให้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมา และความปลอดภัยสำหรับเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนอีกด้วยครับ

กรณีที่ใช้ผิดอยู่บ่อยๆ

1.ใช้ข้ามทางแยก แน่นอนว่าเหตุการณนี้เราอาจจะได้เห็นกันบ่อยๆ แต่การข้ามทางแยกนั้นก็ยังถือว่าเป็นทางตรงครับ หลายๆคนคงหวังดีอยากจะเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อขอทาง แต่รู้หรือไม่ว่า เป็นความคิดที่ผิดนะครับ เพราะเมื่อเราเปิดไฟฉุกเฉินที่ทางแยก ผู้ที่ขับรถมาจากทางซ้ายหรือทางขวาก็จะเห็นไฟเราเพียงด้านเดียวจนเข้าใจผิดว่าเราจะเลี้ยวไปทางนั้นๆ

ที่ถูกต้องคือ ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟครับ แต่ไปโฟกัสเรื่องของลิปไฟสูงเพื่อขอทางดีกว่าครับ


 

2.การแจ้งเตือนเพื่อบอกเหตุอันตรายข้างหน้า จริงๆแล้วการเปิดไฟฉุกเฉินนั้นไม่ผิดหรอกครับ แต่หลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็เกิดจากการเปิดไฟฉุกเฉินนี่แหละครับ เพราะบางครั้งคนไทยอาจจะเป็นคนที่เร่งรีบเมื่ออยู่บนหลังพวงมาลัย เมื่อเห็นคันหน้าเปิดไฟฉุกเฉินก็คิดว่ากำลังจะขอจอดและคันหลังก็รีบตบไฟขวาแซงในที่สุดก็เกิดเหตุขึ้น

ที่ถูกต้องคือ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แนะนำให้ใช้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขวาสลับไปมาเร็วๆ ดีกว่าครับเพราะจริงๆแล้วมันคือสัญญาณเดียวกับที่รถบรรทุกใช้


 

3.ใช้ไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนัก ในเรื่องนี้อาจจะพบไม่บ่อยนักแต่ยิ่งต้องระวัง เพราะการที่เปิดไฟฉุกเฉินในขณะขับรถ จะทำให้ไฟเลี้ยวไม่ทำงานเมื่อต้องการขอทาง รถคันหลังจะไม่ทราบได้ จึงมีอันตรายและเป็นที่น่าสับสนต่อผู้ที่ตามมาครับ

ที่ถูกต้องคือ เปิดไฟหน้ารถดีกว่าครับเพราะไฟท้ายรถที่ติดอยู่ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ หรือถ้าเป็นไปได้ อาจจะเปิดไฟติดหมอกเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยให้มากขึ้น

การใช้ไฟฉุกเฉินที่ดีนั่นควรใช้ในกรณีเดียวเท่านั้นนะครับ คือเวลาที่รถประสบปัญหาจนไม่สามารถขับต่อไปได้ หรือ ต้องการจอดสนิทในที่มืดหรือข้างทาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมใช้ถนน และความห่วงใยจากทีมงาน Sure2Car ครับ